บางคนที่อยากเล่นหุ้น จะเจอว่าบัญชีมีแบบ Cash Balance กับ Credit Balance และไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร สามารถใช้ประโยชน์ในการเทรดต่างกันอย่างไร เรามาดูกันครับ
บัญชีหุ้นแบบ Cash balance คือบัญชีที่ผู้ซื้อหุ้นจะต้องเอาเงินที่จะซื้อหุ้นใส่ในบัญชี มีเงินในบัญชีเท่าไร ก็สามารถซื้อหุ้นได้จำนวนไม่เกินเท่านั้น
ดังนั้นบัญชีแบบนี้มีข้อดีคือ ไม่ว่าหุ้นจะเจ๊ง หรือขาดทุนยังไง ก็ไม่ติดลบ
ข้อเสียคือ สามารถซื้อขายได้ในจำนวนเท่าที่มี ทำให้อาจได้กำไรน้อย ไม่ทันใจ
บัญชีหุ้นแบบ Credit Balance หรือบางที่ก็เรียก Margin Account คือบัญชีที่ผู้ซื้อหุ้นจะสามารถซื้อหุ้นได้เป็นมูลค่ามากกว่าเงินที่ใส่ไว้ในบัญชี โดยนักเล่นหุ้นจะมีการเอา statement หรือรายได้ประจำเดือน หรือสินทรัพย์อื่นๆ เช่น รถยนต์ มาค้ำประกัน ซึ่งจะสามารถซื้อหุ้นได้ในวงเงินมากขึ้น เช่น มีเงิน 2 ล้านก็สามารถซื้อ 4 ล้านบาทได้ โดยโบรกเกอร์หรือธนาคารจะออกเงินไปให้ก่อน 2 ล้านบาท ซึ่งถ้าได้กำไร ก็จะได้กำไรเท่ากับเราลง 4 ล้านบาท แต่ถ้าขาดทุน โบรกเกอร์ หรือ ธนาคารจะขาดทุนด้วย และจะทวงเอาส่วนที่ขาดทุนนี้กับผู้ซื้อหุ้น
บัญชีแบบนี้มีข้อดีคือ ทำให้ซื้อหุ้นทำกำไรได้จำนวนมากกว่าที่มีอยู่
ข้อเสียคือ ถ้าพลาดอาจทำให้สูญเงินจำนวนมากกว่าที่จะรับได้
บัญชีที่แยกเป็น 2 แบบนี้จะมีในตลาดหุ้น แต่หากเป็นตลาด Forex จะไม่มีบัญชีแยกเป็น 2 แบบนี้ แต่จะมีระบบ Leverage แทน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันแต่จะมีกำหนดว่าการขาดทุนจะต้องน้อยกว่าที่กำหนด ซึ่งทำให้เหมาะกับการทำกำไรระยะสั้นและเป็นที่นิยมสำหรับนักเล่นหุ้นรุ่นหลังๆ ที่ต้องการกำไรระยะสั้นเพราะไม่ต้องการถือครองหุ้นอยู่แล้ว สามารถเปิดบัญชีทดลองเทรดได้ฟรีที่ เปิดบัญชีทดลองเทรดเพื่อทดสอบระบบ Leverage
เครดิตบาลานซ์อันตรายมั้ย
ใช้แคชบาลานอยู่
Excellent post. I used to be checking continuously this weblog and I’m impressed! Very helpful info particularly the ultimate section 🙂 I care for such info a lot. I used to be seeking this particular info for a long time. Thank you and good luck.
Actually when someone doesn’t understand then its up to other viewers that they will
help, so here it occurs.