ฝุ่น PM2.5 กระทบต่อหุ้นและเศรษฐกิจอย่างไร

ฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นกระแสในประเทศไทยนั้น นอกจากจะมีผลต่อสุขภาพของคนทั่วไปแล้วยังมีผลต่อหุ้นและเศรษฐกิจ ในประเทศไทยนั้น ฝุ่น PM 2.5 มีปัญหามาในบางพื้นที่เป็นเวลาหลายปี แต่เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติในเดือน ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตราฐานในพื้นที่เกือบทั้งหมดของกรุงเทพ และจังหวัดอื่นๆก็พบว่ามีปัญหาหนักไม่แพ้กัน เช่น เชียงใหม่ ฉะเชิงเทรา

ฝุ่น PM 2.5 นั้นจะทราบกันว่ามีผลต่อสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจ และระบบต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ทั้งนี้เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กจึงสามารถลอดพ้นการกรองของร่างกายได้

ในส่วนของหุ้นและเศรษฐกิจนั้นก็มีผลกระทบเชิงลบเช่นกัน อ้างอิงจากประเทศจีน

• ทำให้เกิดคนป่วยเรื้อรังจำนวนมาก มีผลต่อค่ารักษาและการขาดงาน
• เศรษฐกิจที่เสียหายหนักก็คือภาคที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก
• ภาคการขนส่งเสียหาย
• ส่งผลกับภาพลักษณ์ของประเทศ และการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามในประเทศจีนนั้นมีเศรษฐกิจที่ค่อนข้างโตเร็ว การเติบโตจึงทำให้ตัวเลขความเสียหายถูกหักล้างกัน จึงดูเหมือนไม่เสียหายเท่าใดนัก ประกอบกับโรคที่เกิดจากมลพิษทางอากาศนั้นช่วงต้นไม่ได้เห็นผลทำให้สูญเสียแรงงานทันที จึงยังไม่เห็นผลในช่วงแรก แต่ปัญหาก็สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแรงงานจำนวนมากนอกจากจะได้รับผลจากมลพิษจากการสัมผัสกับมลพิษโดยตรงแล้ว ยังขาดความรู้และทุนทรัพย์ในการป้องกันตัวเองจากมลพิษทางอากาศ จึงทำให้่ผู้ป่วยจากมลพิษทางอากาศเพิ่มสูงขึ้นและเกิดปัญหาต่อตลาดแรงงาน ในส่วนของการท่องเที่ยวนั้น นักท่องเที่ยวจะหลีกเลี่ยงอยู่ในพื้นที่ที่มลภาวะทางอากาศ ทำให้รายได้ของพื้นที่นั้นลดลง

ในขณะที่ผลกระทบเชิงบวกจะมีเช่นกัน

• เศรษฐกิจในส่วนของการส่งเสริมสุขภาพจะมีแนวโน้มโตขึ้น เพราะคนตื่นตัวเรื่องสุขภาพ
• พลังงานสะอาด รถยนต์ไฟฟ้า จะเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น
• รัฐบาลมีมาตรฐานที่มากขึ้นในด้านของสิ่งแวดล้อม

การตื่นตัวทางสิ่งแวดล้อมมีผลดีทางเศรษฐกิจและทำให้เกิดความพัฒนาก้าวหน้าหากได้รับการต่อยอดอย่างดี ในประเทศจีนหลังจากเผชิญมลพิษทางอากาศอย่างหนัก ก็มีการใช้พลังงานสะอาดอย่างจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะโซลาร์เซลล์ซึ่งประเทศจีนกลายเป็นผู้ผลิตอันดับต้นๆของโลก

อย่างไรก็ตามในประเทศจีนก็ยังไม่สามารถเอาชนะมลพิษทางอากาศได้ โดยยังมีพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่และมักจะเป็นพื้นที่ที่กระทบกับเศรษฐกิจ อีกทั้งปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นไปแล้วก็ยังคงสะสมต่อไป แม้จะเกิดการตื่นตัวป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามลพิษ แต่ก็ไม่สามารถทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นมาแล้วได้ทั้งหมด ในประเทศไทยนั้นหากเราตื่นตัวและป้องกันปัญหา ก็จะมีผลดีต่อเศรษฐกิจระยะยาว และยังทำให้ประเทศของเรามีภาพลักษณืที่ดี และส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักอีกด้วย